Last updated: 28 เม.ย 2568 | 10 จำนวนผู้เข้าชม |
โดนโกงเงิน ต้องทำอย่างไร?
การถูกหลอกโอนเงิน ไม่ว่าจะมาจากการซื้อขายสินค้าออนไลน์, ถูกหลอกลงทุน หรือการหลอกลวงรูปแบบอื่น ๆ ถือเป็น "ความผิดฐานฉ้อโกง" ตามกฎหมายไทย
หากคุณตกเป็นเหยื่อ สิ่งที่ควรทำทันที คือ
รวบรวมหลักฐานให้ครบถ้วน
แจ้งความกับตำรวจ
แจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่ที่ตนอยู่ หรือที่เกิดเหตุหากเป็นการโกงออนไลน์ สามารถแจ้งที่ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT)
ดำเนินการทางกฎหมาย
ฟ้องร้องเรียกเงินคืนในศาล หากมูลค่าความเสียหายไม่เกิน 300,000 บาท สามารถฟ้องคดีผู้บริโภค หรือคดีมโนสาเร่เพื่อความรวดเร็วได้
ฟ้องเรียกเงินต้น , ฟ้องเรียกดอกเบี้ยผิดนัด , ฟ้องเรียกค่าเสียหาย(เพิ่มเติม) , ฟ้องเรียกค่าทนายความ(บางกรณี)
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถูกโกง
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 (ความผิดฐานฉ้อโกง)
"ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงสำคัญ ทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อและยอมให้ทรัพย์สินแก่ตน มีความผิดฐานฉ้อโกง"
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 412 (ละเมิด)
"ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเสียหายโดยการกระทำละเมิด ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น"
ฟ้องศาลเรียกเงินคืนต้องทำอย่างไร?
ยื่นคำฟ้องที่ศาลแพ่ง หรือศาลที่มีเขตอำนาจ เรียกค่าความเสียหายทั้งหมด ได้แก่ เงินต้น + ดอกเบี้ย + ค่าเสียหายอื่น ๆ ขอให้ศาลมีคำพิพากษาบังคับจำเลยคืนเงิน
หากไม่สะดวกฟ้องเอง อาจแต่งตั้งทนายความดำเนินการแทนได้
ระยะเวลาในการฟ้อง (อายุความ)
คดีฉ้อโกง มีอายุความ 3 ปี นับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้เรื่องการโกง อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป เพราะอาจเสียสิทธิในการฟ้องร้องได้
ตัวอย่างคำพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5245/2561 จำเลยโพสต์ขายโทรศัพท์มือถือทางอินเทอร์เน็ต โจทก์หลงเชื่อโอนเงินให้จำเลย แต่จำเลยไม่ส่งสินค้า และไม่คืนเงิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3237/2561 จำเลยประกาศขายสินค้าออนไลน์ โจทก์โอนเงินซื้อสินค้า แต่จำเลยไม่ส่งของ ไม่มีการคืนเงิน และบ่ายเบี่ยงเลื่อนส่งของเรื่อยมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4978/2558 ผู้เสียหายถูกชักชวนให้โอนเงิน โดยจำเลยอ้างว่าจะมีผลตอบแทนจากการลงทุน แต่ไม่ได้นำเงินไปลงทุนจริง
19 มิ.ย. 2566
18 มิ.ย. 2566
21 ส.ค. 2566